นักเตะรายนี้ได้ชื่อว่าเป็น “จอมทัพ” คนสำคัญของสโมสร อินเตอร์นาซิอองนาล มานานกว่าทศวรรษ และในขณะนี้ตัวของ อันเดรส ดาเลสซานโดร ตำนานจอมทัพหมายเลข 10 ของอินเตอร์ฯ ก็จะมาพูดเกี่ยวกับมรดกเชิงลูกหนังของเขาที่มอบไว้ให้กับสโมสรแห่งนี้ , เรื่องของการสูญพันธุ์ของนักเตะสไตล์หมายเลข 10 แบบคลาสสิกและเรื่องราวของโค้ชคนโปรดของเขา อันเดรส ดาเลสซานโดร ที่เวลานี้อายุได้ 38 ปีแล้ว กองกลางตัวรุกซ้ายธรรมชาติรายนี้ก็ยังเต็มไปด้วยความสามารถพิเศษและบุคลิกภาพที่โดดเด่นในสนาม และขณะเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นนักเตะสูงวัยขนาดนี้แล้ว แต่เขาก็ยังสนุกกับการลงเล่น เขาเตรียมพร้อมที่จะได้ลงสนามเสมอ
แม้ว่าจะยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่เขาจบหลักสูตรการอบรมเพื่อเป็นโค้ชแล้ว และการทำงานด้านโค้ชก็จะเป็นตัวเลือกในอนาคตของเขาแน่นอน เมื่อเขาเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ นอกจากนี้เขายังไม่ได้เลิกให้ความสนใจบทบาทของผู้อำนวยการที่สโมสร อินเตอร์นาซิอองนาล โดยที่เขามีสัญญาจนถึงสิ้นปีนี้ ตามสไตล์การเล่นของเขานั้น เขาเป็นนักเตะสไตล์ “หมายเลข 10” รุ่นเก่า และความเป็นมืออาชีพของเขายังคงเป็นมรดกตกทอดไปสู่เหล่านักเตะเยาวชนที่สโมสรแห่งนี้เช่นเดิม ดาวเตะซ้ายคลาสสิกรายนี้ได้กล่าวเอาไว้ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ว่า ดูเหมือนว่านักเตะเพลย์เมกเกอร์แบบตัวของเขากำลังจะ “สูญพันธุ์” และเน้นความสำคัญของการมีผู้เล่นกองกลางที่เด็ดขาดในการเล่นได้ทั้งเกมรับและเกมรุกในตัวเอง ซึ่งสำหรับเขาแล้วมันก็คุ้มค่าที่จะแพ้ด้วยการโชว์ทักษะการเล่นที่ดีแทนที่จะชนะด้วยการเล่นที่ไม่ดี
Q: หลังจากใช้เวลานานมากในการค้าแข้ง คุณจะพิจารณาว่าอาชีพของคุณมันอยู่ในระดับไหน และสิ่งที่คุณได้รับนั้นมีอะไรที่มีผลต่อชีวิตของคุณบ้าง คุณเป็นอย่างไรครับ?
A: ฟุตบอลทำให้ผมได้อะไรมากกว่าที่ผมคาดไว้เยอะมาก ฟุตบอลให้สิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะทำได้ เมื่อตอนผมยังเป็นเด็ก ผมคิดว่าการเป็นนักฟุตบอลอาชีพนั้นคือสิ่งที่ผมฝันมาตลอด ตอนนั้นผมดูทีวี เห็นผู้เล่นเก่งๆในทีวีและผมก็พูดว่า “ผมอยากอยู่ในสนามแบบนั้นบ้าง” ฟุตบอลเปิดประตูมากมายสำหรับคุณ โอกาสในการพบปะผู้คนมากมาย ฟุตบอลมอบโอกาสนี้ให้คุณเดินทางไปทั่วโลก ด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมเจอมา ผมกล้าพูดเลยนะเมื่อผู้เล่นทุกคนได้หยุดคิด แล้วจากนั้นพวกเขาก็จะพูดว่า “ว้าว! ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรที่ดีกว่าการเล่นฟุตบอลแล้ว”
Q: คุณมีความสุขกับสิ่งที่ทำสำเร็จมาแล้วตลอดชีวิตหรือไม่?
A: มีสิครับ ผมคิดว่ามันเป็นสิทธิพิเศษ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะที่จะทำได้ มันยากมาก และเป็นสิทธิพิเศษสำหรับคนบางคนเท่านั้น เพราะหลายคนต่างก็ต้องการอยู่ในตำแหน่งแชมเปี้ยน เหมือนที่พวกเราเป็น ดังนั้นแล้วเราจึงต้องตระหนักถึงสิ่งนี้เสมอ ผมได้พยายามดูแลอาชีพค้าแข้งของผมอยู่ตลอดเวลา ผมใส่ใจตัวเองเสมอ ผมมักจะพยายามกระตุ้นให้ตัวเองต้องเพิ่มเติมความขยันเล็กน้อยในการซ้อม ผมรู้อยู่เสมอว่าผมสามารถให้อะไรกับชีวิตค้าแข้งได้มากกว่านี้ ผมทำได้นะ และ ด้วยความคิดนี้นี่เองแหละที่ทำให้ผมมาจนถึงที่นี่ในทุกวันนี้ และผมจะทำต่อไปจนถึงวันสุดท้าย
Q: คุณได้จินตนาการหรือไม่ว่า คุณจะมาได้ไกลขนาดนั้น?
A: ความฝันที่ผมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้คือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หลังจากนั้นเราต้องการที่จะคว้าตำแหน่งแชมป์ และความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยทำได้สำเร็จคือการคว้าถ้วย โคปา ลิเบอร์ตาดอเรสคัพ แชมป์นี้เป็นแชมป์ที่สำคัญที่สุดที่เรามีโอกาสได้ลงเล่นในแดนละตินอเมริกา เป็นแชมป์ที่ไม่มีถ้วยไหนมาเปรียบเทียบกับสิ่งนี้ได้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ยากกว่าทุกถ้วยนะ และขอบคุณพระเจ้าที่ผมมีโอกาสคว้ามันมาครองในการเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ ที่อินเตอร์ หลังจากพวกเราได้แชมป์ ซูดาเมริกานา เราก็ได้ถ้วย ลิเบอร์ตาดอเรสคัพ มาครองอีกถ้วย พร้อมกับที่เรามีทีมที่ดีด้วนะ เรามีประสบการณ์ที่ดี เราพร้อมที่จะเผชิญกับการแข่งขันที่ยากลำบาก แต่ผมคิดว่ามันเป็นแชมป์ที่สำคัญที่สุดและเป็นความทรงจำที่สวยงามที่สุดในอาชีพของผม
Q: วันนี้คุณมีความสัมพันธ์กับทีมแห่งนี้ที่อยู่ในบราซิลอย่างไรบ้างในฐานะที่คุณมาจากอาร์เจนตินา?
A: ผมอยู่ที่สโมสรแห่งนี้มา 11 ปีแล้วนะ จะเป็น โปรแกรมบอลวันนี้ ตารางบอลพรุ่งนี้ ผมก็พร้อมลงสนามเสมอ ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุด บรรยากาศในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านั้นดีมาก เราหวัวว่าจะจบลงในทุกนัดด้วยการคว้าชัยชนะ หรือพยายามคว้าแชมป์ เราอยากทำสิ่งต่าง ๆ ที่มีความสำคัญร่วมกัน มันเป็นกลุ่มนักเตะที่ดีสำหรับสโมสร มันไม่ต้องคิดอะไรอยู่คนเดียวหรอก ผู้เล่นคนอื่นพร้อมช่วยคุณเสมอ มันก็ดีนะที่เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ มันดีที่จะพัฒนาสิ่งอื่น ๆ นอกสนามไปด้วยได้อีกทาง การรู้จักผู้คนมากมาย ได้สัมผัสต่อกัน ได้รู้จักกัน การมีนักเตะที่แตกต่างกันตั้งแต่นิสัยยันโปรไฟล์ส่วนตัวมันช่วยได้นะ เพื่อจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ เช่นกัน ดังนั้นเราจึงสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ ในฐานะคนๆหนึ่ง ผมสามารถเข้าใจเพื่อนร่วมทีมได้ดีขึ้น ในฐานะผู้นำทีม ผมทำเพื่อที่ผมจะได้สามารถทำให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ผมต้องช่วยเพื่อนในการจัดการทุกอย่างในทีม
Q: ทำไมมีโค้ชชาวอาร์เจนตินาจำนวนมากมาย ที่ย้ายมาทำงานในต่างประเทศ และยังเป็นที่สโมสรใหญ่ๆด้วย แถมแต่ละทีมในลีกบราซิลนั้น โค้ชของพวกเขาก็ไม่ใช่ชาวบราซิล?
A: อืม… จากประสบการณ์ของผมนะครับ มันยากที่จะพูดเกี่ยวกับโค้ช เพราะผมยังไม่ได้เป็นโค้ช แต่ผมเชื่อว่าคลื่นลูกใหม่นี้จะเกิดขึ้นเร็วกว่ามากในอาร์เจนตินา การมาถึงยุคสมัยใหม่ในการทำทีมแบบยุคนี้ มันเกิดขึ้นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องเงินทอง การสนับสนุน และอีกหลายอย่างเลย โค้ชเก่งๆจากอาร์เจนตินาตอนนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่บราซิลมาก ในบราซิลมันกำลังเติบโตมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มากในขณะนี้ โค้ชรุ่นใหม่ๆที่อายุน้อย กำลังผุดออกมาเยอะมาก และถึงแม้จะมีโค้ชชาวอาร์เจนไตน์หลายคนที่ในทุกวันนี้ต่างก็ประสบความสำเร็จ ผมกำลังพูดถึงตัวของ ซิเมโอเน , ปอเชตติโน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำงานในประเทศอาร์เจนตินา อย่างเช่นพวก เปเกรีโน (เมาริซิโอ อดีตโค้ชของ เลกาเนส) ก็ทำงานอยู่ต่างประเทศเช่นกัน ส่วนตัวของ บิเอลซ่า โอ้ … ยังเป็น …. ยอดโค้ชเสมอ สำหรับผมแล้วสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการได้ร่วมงานกับเขา ผมสงสัยว่าทำไมหลายคนได้พูดถึงเขาในแง่ลบนะ เพราะสำหรับผมนั้น เขาเป็นคนที่ดีที่สุด หลายคนไม่ได้ทำงานในลีกอาร์เจนตินา แต่พวกเขาเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากแนวทางการทำทีมของ บิเอลซ่า
Q: รูปถ่ายของคุณที่เคยถ่ายรูปคู่กับ ฟรานเชสโกลี มันมีความหมายอะไรบ้าง เป็นทั้งแชมเปี้ยน, ไอดอล และเขาเคยคว้าถ้วยแชมป์ลิเบอร์ตาดอเรสคัพด้วยสินะ ลองอธิบายหน่อยสิครับ
A: เดอ ฟรานเชสโกลี ตอนนั้นผมยังเด็ก และผมก็เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบเขามาก และเขาก็ถ่ายรูปกับทุกคน และเราต้องการบางสิ่งจาก ฟรานเชสโกลี มันเป็นไปไม่ได้ในเรื่องที่ว่าเราต้องการแค่ถุงเท้า กางเกงขาสั้น หรือบางอย่างจากเขา และรูปของเขารูปนี้ ผมก็มีติดอยู่ที่บ้าน เพราะเขาเป็นนักเตะคนล่าสุดที่ได้แชมป์ ลิเบอร์ตาดอเรสคัพ ในปี 1996 กับทีม ริเวอร์เพลท ผมเป็นเด็กเก็บบอลในถ้วยดังกล่าวตอนนั้นด้วย เขาเก่งมากนะ เขาเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของทีมนี้ เขาเท่มาก เช่นเดียวกับทีมชาติอุรุกวัย เขาก็เป็นสัญลักษณ์เช่นกัน
Q: คุณใกล้จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพแล้ว คุณเห็นคนที่น่าจะสามารถก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับตัวของคุณหรือไม่?
A: ผมผ่านชีวิตมาถึงทุกวันนี้ โดยผมผ่านการโดนเปรียบเทียบมาก็มาก ตัวผมนั้นไม่ต้องการกดดันใคร แต่ผมคิดว่า ก็ใช่นะ มีผู้เล่นที่ในอนาคตน่าจะสามารถเข้าร่วมทีมยักษ์ใหญ่ได้อย่างายดาย ในฐานะที่เป็นชาวอาร์เจนตินา ผมจะพูดเกี่ยวกับตัวของ ซาร์ราฟิออเร เขาเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาถึงทีมนี้เมื่อปีที่แล้ว และเขายังเด็ก แต่ก็เติบโตขึ้นทุกวัน เขาเข้าใจในลีกฟุตบอลบราซิลมาก และรวมถึงฟุตบอลอเมริกาใต้ด้วย เขากำลังก้าวหน้ามากกว่าเดิม และนี่เป็นเรื่องสำคัญ
Q: คุณคิดว่าไม่มีนักเตะสไตล์เบอร์ 10 แบบคลาสสิกเกิดขึ้นในยุคนี้อีกแล้วสินะ คุณเห็นด้วยหรือไม่? แล้วคุณเป็นนักเตะสไตล์หมายเลข 10 คลาสสิกสุดท้ายในฟุตบอลอเมริกาใต้จริงๆเหรอ?
A: มันคือการเปลี่ยนแปลงของวงการฟุตบอล สิ่งที่เราเรียกว่าฟุตบอลสมัยใหม่ในทุกวันนี้ หลายทีมเล่นโดยไม่มีกองกลางตัวทำเกมรุก ไม่ต้องผูกปมให้มันหรอก ผมเชื่อว่าฟุตบอลมันจะไม่มีวันหยุดอยู่กับที่ แต่เห็นได้ชัดว่านักเตะสไตล์เบอร์ 10 แบบคลาสสิกเหล่านี้นั้นไม่มีบทบาทในการเล่นแล้ว มันน้อยลงไปมากในทุกวันนี้ แต่ผมเชื่อว่าทุกทีมต้องการสักหนึ่งคน เพราะบางคนนั้นสามารถพลิกเกมได้ในเวลาเพียง 10, 15, 20, 50 นาทีเท่านั้น และที่สำคัญคือนักเตะหมายเลข 10 มักจะอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลหลาย ๆ คน เพราะพวกเขาแตกต่างกันจากนักเตะทั่วไป พวกเขาแตกต่างกันมาก
Q: แล้วใครล่ะที่คุณสามารถอ้างอิงได้บ้างว่าเป็นนักเตะหมายเลข 10 ที่เก่งในสายตาคุณ
A: มีหลายคนเลยทีเดียวที่ผมอยากพูดถึง เยอะมาก แต่ถ้าอธิบายทั้งวันก็ไม่จบแน่นอนครับ
Q: แล้วสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อปรับปรุง และไม่ปล่อยให้นักเตะหมายเลข 10 สูญพันธุ์ไปล่ะ ทำยังไง?
A: ผมได้พูดไปแล้วว่า โลกฟุตบอลของเรามันเปลี่ยนไปตลอด เพราะผมคิดว่าผลลัพธ์ของการแข่งขันในทุกวันนี้ มันมักจะสำคัญกว่าเส้นทางที่เราจะชนะแบบมีสไตล์ไปแล้ว นั่นคือเส้นทางที่มีค่ามากกว่าอะไรเลยในทุกวันนี้
การจะปล่อยให้นักเตะโชว์ทักษะเจ๋งๆ ไม่ใช่สิ่งที่โค้ชยุคนี้ต้องการ อย่างน้อยผมก็จำได้ว่าในช่วงเวลาที่ผมไม่เคยเป็นแชมป์กับทีมในอคาเดมีของทีมริเวอร์เพลท พวกเขาเพียงต้องการให้เราเล่นได้ดี มีสไตล์ที่สวยงาม พวกเขาต้องการให้เราเล่นฟุตบอลให้สนุก แต่ในหลายๆทีม พวกเขาปลุกฝังเด็กในอีกแบบหนึ่งไปเลย นั่นคือการเล่นแบบเน้นระบบมากกว่าให้นักเตะสนุก
Q: คุณต้องการทิ้งมรดกเชิงลูกหนังไว้กับทีมนี้หรือไม่?
A: ทุกอย่างในโลกฟุตบอลนั้นสามารถฝากอะไรหลายอย่างไว้ได้นะ แต่มันขึ้นอยู่กับเราที่จะดำเนินการต่อไปกับความคิดนี้ได้ยังไงมากกว่า มีโค้ชที่อยากดำเนินการทำทีมต่อไปด้วยมุมมองแบบคนสมัยใหม่ แต่ก็มีโค้ชที่ผสมผสานสองสไตล์เข้าด้วยกัน แต่ผมคิดว่าการอธิบายเรื่องนี้ มันจะมีความลึกซึ้งยิ่งกว่าอีก ผมไม่ต้องคิดว่าผลลัพธ์ในการแข่งขันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เห็นได้ชัดว่าผลลัพธ์คือกุญแจสำคัญในฟุตบอล โอเคมันถูกแน่นอน แต่ถ้าคุณเล่นได้ดีและแพ้คุณจะถูกวิจารณ์ แต่ผมชอบเล่นได้ดีและแพ้มากกว่าเล่นไม่ดีและพวกเราชนะ เพราะถ้าคุณเล่นไม่ดีและชนะในเกมการแข่งขัน บางครั้งมันจะไม่นำคุณไปสู่ตำแหน่งแชมป์ใด ๆ และถ้าคุณเล่นได้ดี ทำงานหนัก และมีฐานที่มั่นคงอาจจะมีแพ้ในการแข่งขันไปบ้าง แต่มันก็เป็นแชมป์ได้